การทำไข่เค็มพอกดินจอมปลวก 
#ห้องสมุดประชาชนอำเภอเสริมงาม

#ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอเสริมงาม
 

 💚บรรณาพาทัวร์ EP.1 วัดโป่งน้ำร้อน🌿





#ประวัติวัดโป่งน้ำร้อน

ปี พ.ศ.2524 ชาวบ้านโป่งน้ำร้อนได้ร่วมกันสร้างที่พักสงฆ์ชั่วคราวบริเวณหลังโรงเรียนบ้านโป่งน้ำร้อน เพื่อประกอบพิธีทางศาสนาโดยนิมนต์พระสงฆ์จากวัดเหล่ายาว มาประกอบพิธีทางศาสนาในวันสำคัญทางศาสนาเป็นประจำทุกปี

ต่อมาปี 2528 ทางโรงเรียนบ้านโป่งน้ำร้อนได้รับงบประมาณสร้างอาคารเรียน ทางโรงเรียนไม่มีที่ก่อสร้างอาคารเรียน ทางคณะครูได้ขอที่ที่พักสงฆ์กับชาวบ้านโป่งน้ำร้อน เพื่อก่อสร้างอาคารเรียนโดยได้ย้ายที่พักสงฆ์ไปไว้ที่ว่างเปล่ากลางหมู่บ้าน ปัจจุบันคือศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน โดยสร้างเป็นอาคารไม้ขนาด 10*20 เมตร หลังคามุงกระเบื้อง เมื่อปี พ.ศ.2530

ต่อมาปี พ.ศ.2534 ทางกรมการศาสนาได้ส่งพระธรรมจาริกเผยแพร่ศาสนาจากวัดศรีโสดาจังหวัดเชียงใหม่ โดยการนำของพระอาจารย์ศีละ อินทปัญโญ นายหน่อ วันดู ผู้ใหญ่บ้าน และครูเกษม กาวิโล เห็นว่าสถานที่พักสงฆ์มีขนาดแคบไปไม่เหมาะสมที่จะสร้างวัดจึงประชุมปรึกษากับชาวบ้าน เห็นสมควรจะย้ายที่พักสงฆ์ไปตั้งไว้ที่บนภูเขา ที่ติดกับหมูบ้านโดยสร้างเป็นอาคารชั่วคราวขนาด 8*16 เมตร หลังคามุงกระเบื้อง

ปี พ.ศ.2538 พระศีละ อินทปัญโญ ได้นำชาวบ้านสร้างวิหาริย์ไม้ มีเสาร์ไม้ 20 ต้น มุงด้วยกระเบื้อง แต่โดนพายุ ฤดูร้อนทำให้วิหาริย์ ล้มทั้งหลัง

ปี 2540 พระศีละ อินทปัญโญ ได้นำชาวบ้านสร้างวิหาริย์อีกโดย สร้างเสาร์วิหาริย์ด้วยปูนซีเมนต์ขนาด 10*20 เมตร หลังคามุงด้วยกระเบื้องเพื่อประกอบพิธีทางศาสนา ตลอดมา

จนในปี พ.ศ.2565 คุณแม่ศรีนวล ธรรมยา เจ้าของห้างทองศิริลำปาง 1999 ได้มาบูรณะวิหาริย์ทั้งหลังจนแล้วเสร็จ ใช้งบประมาณบูรณะวิหาริย์จำนวน 2,000,000 บาท (สองล้านบาทถ้วน) ปัจจุบันสำนักสงฆ์บ้านโป่งน้ำร้อน มีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ 1 รูป คือ พระถาวร ชุตินธโร

เครติดข้อมูล : นายเกษม กาวิโล

สามารถร่วมแสดงความคิดเห็นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนากิจกรรมให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้ที่ลิงค์ด้านล่าง🙏 https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLScs6q_sqtCav--4p9BOReluf20nlM6l003A7uxynIPp3b4ySw/viewform?usp=header

#ส่งเสริมการเรียนรู้ #กิจกรรมประชาสัมพันธ์แหล่งเรียนรู้ #บรรณาพาทัวร์ #EP1 #วัดโป่งน้ำร้อน #ห้องสมุดประชาชนอำเภอเสริมงาม #ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอเสริมงาม


พระราชกิจด้านการศาสนาและวัฒนธรรม

ทรงศึกษาและปฏิบัติตามหลักธรรม
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงศึกษาธรรมทางพระพุทธศาสนาใน ๓ ลักษณะ คือ
๑. ทรงศึกษาจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงยกย่องเทิดทูนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่าเป็นผู้พระราชทานความรู้แก่พระองค์ทุกด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านพระบวรพุทธศาสนา
๒. ทรงศึกษาโดยการสดับพระธรรม เทปธรรมะ และการสนทนาธรรมกับพระมหาเถระชั้นผู้ใหญ่ อาทิ เสด็จพระราชดำเนินไปทรงสนทนาธรรมกับสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ณ วัดบวรนิเวศวิหาร และโปรดเกล้าให้สร้างตำหนักถวายสมเด็จพระสังฆราชขึ้นในบริเวณป่า ไม่ห่างจากพระตำหนักที่ทรงแปรพระราชฐาน เช่นที่ภูพิงคราชนิเวศน์ และที่ภูพานราชนิเวศน์ และเสด็จพระราชดำเนินไปศึกษาธรรมะด้วย
ส่วนสถานที่ที่ทรงโปรดเสด็จพระราชดำเนินไปเป็นประจำทุกปี คือพิพิธภัณฑ์พระอาจารย์มั่น พระอาจารย์ฝั้น และพระอาจารย์วัน ทั้งได้ทรงจัดดอกไม้บูชาด้วยพระองค์เอง
๓. ทรงศึกษาจากหนังสือธรรมะ หนังสือธรรมะที่ทรงสนพระราชหฤทัยเป็นพิเศษ คือหนังสือพระพุทธประวัติ ประวัติพระพุทธศาสนา ประวัติพระอริยสงฆ์ หนังสือชาดก หนังสือเรื่องกองทัพธรรม รวมทั้งหนังสือสวดมนต์ต่างๆ
จากการศึกษาธรรมะทั้ง ๓ ลักษณะ จึงยังผลให้สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงเข้าพระทัยหลักธรรมสำคัญๆ ในพระบวรพุทธศาสนาอย่างลึกซึ้ง และได้ทรงน้อมนำพระธรรมเหล่านั้นมาทรงปฏิบัติ ส่งผลเป็นพระมหากรุณาธิคุณปกแผ่ไปทั้งมวลหมู่พสกนิกรทั้งในประเทศและประชาชนในประเทศใกล้เคียง ตลอดถึงประชาชนชาวไทยและชาวต่างประเทศด้วย

 

5 พฤศจิกายน 2568
วันเพ็ญ เดือน 12 คืนพระจันทร์เต็มดวงของทุกปี นับเป็นอีกหนึ่งวันสำคัญของไทย ที่ประชาชนพร้อมใจกันร่วมแสดงความเคารพต่อพระแม่คงคา แม่น้ำผู้หล่อเลี้ยงทุกสรรพสิ่ง…
ห้องสมุดประชาชนอำเภอเสริมงามขอร่วมอนุรักษ์วัฒนธรรมอันดีงามนี้ไว้ เพื่อให้คงอยู่กับคนไทยสืบไป
หากท่านใดไม่สะดวกไปลอยกระทงด้วยตนเอง สามารถลอยออนไลน์ได้ที่ 👉 https://map.longdo.com/loykrathong/
เพื่อร่วมสืบสานวัฒนธรรมไทย และช่วยรักษ์สิ่งแวดล้อมไปพร้อมกันค่ะ 🥰